Future-Ready Leadership: Microservices, Cloud Native & DevOps
- TTCS05
- Classroom
- Fundamental
- Thai | 0

การรวมพลังของสามประสาน Microservices, Cloud Native และ DevOps เป็นแนวคิดที่พึ่งพาซึ่งกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ หาก Microservices มอบความละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ
Course description
Time
Instructor
Venue
Future-Ready Leadership: Microservices, Cloud Native & DevOps
สถาปัตยกรรมแบบ Monolithic ซึ่งเป็นแนวทางดั้งเดิมในการสร้างแอปพลิเคชัน ทำงานเป็นหน่วยเดียวที่ใหญ่และเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา ในแอปพลิเคชันแบบ Monolithic ระบบปฏิบัติการ, Middleware และภาษาที่ใช้มักจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการใช้งานเฉพาะเจาะจงแต่ละแอปพลิเคชัน ทำให้การเปลี่ยนแปลงในส่วนหนึ่งของระบบต้องอาศัยการคอมไพล์, ทดสอบ, และนำไปใช้ใหม่ทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้เกิดความยุ่งยากเมื่อระบบเติบโตขึ้น เนื่องจากสร้างความยุ่งเหยิงและยากต่อการเปลี่ยนแปลง, ทดสอบ, และบริหารจัดการระบบได้ตลอดเวลาวงจรการพัฒนาที่ช้า, ความเสี่ยงสูงในการนำไปใช้งาน, และการขาดความคล่องตัวของสถาปัตยกรรมแบบ Monolithic จึงเป็นปัจจัยหลักที่จำกัดความสามารถขององค์กรในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
Microservices: สถาปัตยกรรมที่จำเป็นสำหรับความคล่องตัว Microservices คือสถาปัตยกรรมที่ประกอบด้วยชุดของบริการขนาดเล็ก, อิสระ, และเชื่อมโยงกันอย่างหลวมๆ โดยแต่ละบริการจะมุ่งเน้นการจัดการความสามารถทางธุรกิจเพียงอย่างเดียวภายในบริบทที่จำกัด แนวคิดหลักคือการสร้างบริการที่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง (self-contained) และมีหน้าที่รับผิดชอบในการคงสถานะข้อมูลของตนเองไว้ เพื่อให้แอปพลิเคชันแบบ Microservice ประสบความสำเร็จ จะต้องยึดมั่นในหลักการสำคัญ 5 ประการ ได้แก่: การมีหน้าที่รับผิดชอบเดียว (Single concern), การมีขอบเขตที่ชัดเจน (Discrete boundaries), การเคลื่อนย้ายได้ง่าย (Transportable), การเป็นเจ้าของข้อมูลของตนเอง (Carries its own data), และการมีอายุการใช้งานที่สั้น (Inherently ephemeral)หลักการ "Single concern" ที่ระบุว่าบริการควรทำสิ่งเดียวและสิ่งเดียวเท่านั้น และหลักการที่ว่าบริการควรเป็นเจ้าของข้อมูลของตนเองนั้น มีนัยสำคัญอย่างยิ่งในระดับองค์กร การตัดสินใจทางสถาปัตยกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นการบังคับให้ทีมต้องทำงานอย่างเป็นอิสระและเป็นเจ้าของขอบเขตทางธุรกิจที่เฉพาะเจาะจงอย่างเต็มรูปแบบ วิธีการนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากการตัดสินใจแบบรวมศูนย์ที่พบได้ทั่วไปในสภาพแวดล้อมแบบ Monolithic ที่มีผู้นำเพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียวเป็นผู้รับผิดชอบ ทำให้เกิดคอขวดและขาดความคล่องตัว การนำสถาปัตยกรรม Microservices มาใช้จึงเป็นการสร้างความเชื่อมโยงเชิงสาเหตุ: การตัดสินใจทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมจะส่งผลโดยตรงต่อวัฒนธรรมองค์กรและโครงสร้างการทำงาน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทีมมีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการออกแบบ, พัฒนา, และนำบริการไปใช้ได้อย่างอิสระ รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีแลเครื่องมือที่เหมาะสมกับความต้องการของตน การกระจายความรับผิดชอบนี้สร้างความรู้สึกของการเป็นเจ้าของและส่งเสริมแนวทางเชิงรุกในการจัดการบริการในที่สุด
Cloud Native: กรอบความคิดที่เหนือกว่าแค่คลาวด์ การทำความเข้าใจความแตกต่างที่สำคัญ ระหว่าง "คลาวด์" กับ "Cloud Native" เป็นสิ่งสำคัญ คลาวด์หมายถึงแหล่งทรัพยากรคอมพิวเตอร์ที่สามารถเข้าถึงได้ตามความต้องการ ในทางตรงกันข้าม "Cloud Native" เป็นกรอบความคิดหรือแนวทางในการสร้าง และรันแอปพลิเคชันที่ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติความยืดหยุ่นและลักษณะการกระจายของโครงสร้างพื้นฐานบนคลาวด์ได้อย่างเต็มที่ การนำแนวทาง Cloud Native มาใช้เป็นเรื่องของวิธีการสร้างและส่งมอบแอปพลิเคชันไม่ใช่แค่สถานที่ที่แอปพลิเคชันถูกนำไปใช้
สถาปัตยกรรม Cloud Native ได้รับการออกแบบมาเพื่อแยกส่วนประกอบต่างๆ ออกเป็นบริการที่เชื่อมโยงกันอย่างหลวมๆ ผ่านการใช้เทคโนโลยีและระเบียบวิธีที่สำคัญ เช่น DevOps, Continuous Deliveryและ Continuous Integration, Containers, Microservices และ Declarative APIs แนวทางนี้ช่วยให้ทีมสามารถนำส่วนประกอบต่างๆ ไปใช้และปรับขนาดได้อย่างอิสระ ทำให้สามารถอัปเดต, แก้ไขปัญหา, และส่งมอบฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้โดยไม่มีการหยุดชะงักของบริการ ตัวอย่างเช่น การใช้ Software containers ทำให้แอปพลิเคชันมีขนาดเล็กและสามารถย้ายจากสภาพแวดล้อมหนึ่งไปยังอีกสภาพแวดล้อมหนึ่งได้โดยแทบไม่ต้องเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย นอกจากนี้ยังช่วยลดพื้นผิวการโจมตีและทำให้การตรวจจับและตอบสนองต่อช่องโหว่ใหม่ๆ ง่ายขึ้นอีกด้วย
DevOps: กลไกทางวัฒนธรรมสำหรับการส่งมอบที่รวดเร็ว DevOps เป็นแนวคิดเชิงวัฒนธรรมที่ประสานงานระหว่างทีมพัฒนา (Development) และทีมปฏิบัติการ (Operations) เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความเร็วและความน่าเชื่อถือในการส่งมอบซอฟต์แวร์ หัวใจสำคัญของ DevOps ไม่ใช่ตำแหน่งงานหรือทีมใดทีมหนึ่ง แต่เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมที่ทีมงานทั้งหมดทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับปรุงความสามารถในการพัฒนา, ทดสอบ, บริหารจัดการ, นำไปใช้, ตรวจสอบ, และแก้ไขซํ้าแอปพลิเคชันวัฒนธรรม DevOps ที่แข็งแกร่งยึดมั่นในหลักการสำคัญ เช่น การทำงานร่วมกัน, การสื่อสารแบบไร้การตำหนิ (blameless communication), การใช้ระบบอัตโนมัติ (automation) และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องการเพิ่มความถี่ในการทดสอบและจำนวนการทดสอบช่วยลดโอกาสในการนำข้อบกพร่องเข้าสู่ระบบการผลิตและการลดงานที่ต้องทำด้วยตนเองและการทำให้งานที่เกิดซํ้าๆ เป็นอัตโนมัติจะช่วยเร่งกระบวนการและเพิ่มความสมํ่าเสมอให้กับผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม แนวคิด DevOps นี้มักถูกเข้าใจผิดจนนำไปสู่กับดักที่ผู้นำควรหลีกเลี่ยง เช่น การสร้าง "ทีม DevOps" ที่แยกต่างหาก หรือการมี "ฮีโร่ DevOps" เพียงคนเดียว
ความเข้าใจนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การสร้างทีม "DevOps" ที่แยกต่างหากจะสร้างไซโลขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรัชญา DevOps ตั้งใจจะกำจัดตั้งแต่แรก แทนที่จะกระจายหน้าที่และความรับผิดชอบไปทั่วทั้งองค์กรการมีทีมเฉพาะกิจนี้จะสร้างคอขวดใหม่และขัดขวางการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่แท้จริงของการเป็นเจ้าของงานตั้งแต่ต้นจนจบ การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้นำระดับสูงและมีผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่เข้าใจความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมนี้อย่างถ่องแท้ ผู้นำที่ประสบความสำเร็จจะต้องไม่เปลี่ยนแค่ตำแหน่งงาน แต่ต้องเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากโครงสร้างการทำงานที่แยกส่วนเป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
การรวมพลังของสามประสาน Microservices, Cloud Native และ DevOps เป็นแนวคิดที่พึ่งพาซึ่งกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ หาก Microservices มอบความละเอียดทางสถาปัตยกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ, Cloud Native ก็มอบโครงสร้างพื้นฐานแบบไดนามิกที่จำเป็น เช่น Containers และ APIs และDevOps คือกาวทางวัฒนธรรมและกระบวนการที่ทำให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ผ่านContinuous Integration และ Continuous Delivery (CI/CD) และระบบอัตโนมัติ การผสานรวมกันนี้ช่วยให้องค์กรสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น, มีความเสถียรมากขึ้น, และปรับขนาดได้อย่างง่ายดาย หากขาดองค์ประกอบใดไป การเปลี่ยนแปลงก็จะไม่สมบูรณ์และจะเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญในระยะยาว
หลักสูตรนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบุคคลที่ต้องการมีบทบาทเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและปรับปรุงประสิทธิภาพในองค์กร กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยผู้บริหารและผู้นำในสายงานต่างๆ เช่น ผู้จัดการธุรกิจไอที, ผู้จัดการไอที, ผู้อำนวยการ, เจ้าของผลิตภัณฑ์ (Product Owners), Scrum Masters, ผู้บริหารฝ่ายสนับสนุนการปฏิบัติงาน, และผู้ปฏิบัติงาน DevOps นอกจากนี้ยังรวมถึงบุคคลที่มีบทบาทเชิงกลยุทธ์ เช่น Chief Technology Officer (CTOs) และ VPs of Engineering ที่ต้องการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในระดับองค์กร หลักสูตรนี้มุ่งเน้นการสร้างผู้นำที่สามารถทำงานร่วมกันเพื่อทำลายไซโล และนำการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมไปสู่ทุกระดับขององค์กร
คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม
- ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคำศัพท์ DevOps ทั่วไป
- ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Container และสถาปัตยกรรม Microservices
- ความเข้าใจพื้นฐานของ Cloud Computing
- ความรู้เกี่ยวกับ Kubernetes Core Concepts เช่น Pods, Services, และ Deployments
- ประสบการณ์ในการจัดหา, ปฏิบัติงาน, และบริหารจัดการสภาพแวดล้อมบน AWS, Azure, หรือGoogle Cloud Platform (GCP) เป็นเวลา 2 ปีขึ้นไป
- ความรู้ในการทำงานกับภาษาโปรแกรมระดับสูงอย่างน้อยหนึ่งภาษา (เช่น C#, Java, Python)
- ประสบการณ์กับ Docker รวมถึงการจัดการ Container และการสร้าง Docker Image
เชิงกลยุทธ์:
- แปลงความต้องการทางธุรกิจให้เป็นวิสัยทัศน์ทางสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย
- สื่อสาร "เหตุผล" ของการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและจูงใจทีมงาน
- ขับเคลื่อนและบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและองค์กรที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จ
เชิงปฏิบัติการ:
- เข้าใจรูปแบบและรูปแบบที่ไม่เหมาะสม (anti-patterns) ที่สำคัญในสถาปัตยกรรม Microservices และ Cloud Native
- ระบุและลงทุนในแนวทางปฏิบัติที่สำคัญ เช่น CI/CD, Infrastructure as Code (IaC) และ Observability
- วัดผลความสำเร็จด้วยตัวชี้วัดและ KPIs ที่เกี่ยวข้อง
Day 1 Microservice
- Introduction to Microservice Architecture
- Monolithic Architecture
- Microservice Architecture
- How to decompose
- Related Patterns
- Service Discovery
- Circuit Breaker
- Security
- Monitoring
- API Gateway
- External Configuration
Day 2 Cloud Native
- Introduction to Cloud Native
- Comparison : The key differences between Cloud Native, Cloud-based, and On-premises
- Get Started with GIT technologies
- The Core: Containerization with Docker
- Container Concepts: Why do we need containers?
- What is Container Base Technologies?
- Get Started with Containerization
- Docker
- K8S [Kubernetes]
Day 3 DevOps
- Introduction to DevOps
- DevOps Flow
- How to Build Automation
- What is Continuous Integration and Continuous Deployment
- Getting started with Jenkins
- Continuous Integration with Jenkins
- Continuous Inspection with Jenkins
- Continuous Delivery with Jenkins
- Distributed Builds
Payment can be made by:
- Cash or Credit Card or Bank Cheque payable to
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ or National Science and Technology Development Agency
(a post-dated cheque is not accepted) on the first day of the service or within the last day of the service. - Account transfer and send the proof of the payment (the deposit slip) via email xxx@swpark.or.th
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาอุทยานวิทยาศาสตร์
Saving Account Number: 080-0-00001-0
Account Name: สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ - ธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดไท
Saving Account Number: 152-1-32668-1
Account Name: สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาอุทยานวิทยาศาสตร์
Notes:
- Withholding tax (3%) is exempt.
- Should you need to withdraw, you must send the notice of the withdrawal in writing no later than 7 working days before the commencement date. The cancellation less than 7 days will be subject to a fine of 40% of the fee.
- Software Park Thailand reserves the rights to cancel courses due to unforeseen circumstances.
Contact Person
For more information, contact our course coordinator on:
คุณภัสสร พรทิพย์
Ms. Patsorn Pornthip
Tel: +66-2583-9992 Ext. 81422
Email: patsorn@swpark.or.th
You are encouraged to use the course schedule as a guide to plan your training.
The schedule is accessible at www.swpark.or.th for more information.
12,000 THB .
สำคัญ!!! กรุณารอการยืนยันเปิดการอบรมจากเจ้าหน้าที่ก่อนการชำระค่าลงทะเบียน
สำคัญ!!! กรุณารอการยืนยันเปิดการอบรมจากเจ้าหน้าที่ก่อนการชำระค่าลงทะเบียน
Course Detail :
Instructor info
